วันพุธที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2553

เมารถ เมาเรือ แก้ไขและป้องกันได้


ใครที่เคย "เมาเรือ" หรือแม้แต่เมารถ คงจะรู้ดีว่ามันทรมานมากแค่ไหน เพราะมักจะเกิดขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย
เริ่มรู้สึกพะอืดพะอมไม่สบาย ไปจนถึงเหงื่อออกตัวเย็น เวียนหัว คลื่นไส้ แล้วก็อาเจียนออกมา

วันนี้ บางเบิดรีสอร์ท จะมานำเสนอ วิธีป้องกันและแก้ไขอาการเมารถเมาเรือ เพื่อให้เป็นความรู้ก่อนออกเดินทางไปดำน้ำดูปะการัง หรือไปตกหมึก กันนะครับ

หลายคนคงอยากทราบว่า ทำไมถึงเมารถ เมาเรือ
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้เปิดเผยเทคนิคการป้องกันและแก้ไขการเมารถ เมาเรือว่า อาการเมารถ เมาเรือ เกิดจากขณะเคลื่อนไหว สมองเกิดความสับสนแบบประสาทหลอน
เนื่องจากข้อมูลที่รายงานเข้ามาจากหูและตา ไม่สอดคล้องกับข้อมูลจากอวัยวะคุมการทรงตัวของร่างกาย ที่อยู่ในหูชั้นใน
ถ้าหยุดการเคลื่อนไหว อาการเมาก็จะค่อย ๆ หายไป คนที่เดินทางบ่อย ๆ มักจะปรับตัวเองให้คุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น และเมาน้อยลง หรือไม่เมาเลย

เทคนิคอื่น ๆ ที่จะช่วยบรรเทาการเมารถ ได้แก่


1.นั่งแถวหน้า ๆ เพราะการนั่งหน้าและมองไปข้างหน้า จะทำให้ทั้งตาและหูของเรารับรู้การเคลื่อนไหวของพาหนะนั้นไปพร้อม ๆ กับอวัยวะควบคุมการทรงตัวที่อยู่ในหูชั้นใน
จึงมีโอกาสเมาน้อยกว่าการนั่งในตำแหน่งอื่นๆ
2.จินตนาการว่าตัวเองเป็นคนขับเสียเอง เพราะคนขับจะไม่เมา เวลาจะเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาก็คาดการณ์ล่วงหน้า และรู้ตัวขณะที่ร่างกายต้องหมุนเลี้ยวตามพาหนะนั้นๆ
สมองก็จะเกาะติดสถานการณ์ได้ชัดเจนขึ้นไม่สับสน
3.มองไปไกลๆ อย่ามองใกล้ๆ เพื่อให้สมองมั่นใจว่า อะไรอยุ่ที่ไหน ขณะที่พาหนะเคลื่อนไหวไปมาต้องหามองอะไรที่ไกล ๆ และนิ่ง ๆ
และรู้ตัวว่าตัวเรากำลังเคลื่อนไหวไปขณะที่จุดนั้น เพื่อให้สมองทราบสถานะและตำแหน่งของตัวเองได้ถูกต้อง
4.อย่าอ่านหนังสือหรือตั้งใจมองอะไรที่เป็นของเล็ก ๆ หรือเขย่า ๆ หรือเคลื่อนไหวบนพาหนะ เพราะการเคลื่อนไหวของตัวเรากับวัสดุในพาหนะจะไม่ไปด้วยกัน ทำให้สมองสับสนถึงตำแหน่งที่แท้จริงของตัวเอง
5.ตั้งศีรษะให้ตรง ให้ศีรษะอยู่นิ่ง ๆ เวลาเลี้ยวก็ตั้งใจรู้ตัวว่ากำลังหันไปตามการเลี้ยว อย่าให้ศีรษะไปพิงกับส่วนของพาหนะที่เขย่า ๆ ไปตามแรงกระแทก
ถ้าจะพิงพนักก็ให้ใช้หลังพิงโดยให้ศีรษะตั้งตรงขึ้น อย่าฟุบหน้าลงหรือเอนศีรษะไปพิงอะไรข้าง ๆ จะทำให้ตัวเองอยู่ในสภาพถูกจับแกว่งไกว ขณะที่เลี้ยวไปมา
6.อย่าสูบบุหรี่ หรือนั่งใกล้ๆคนสูบบุหรี่เด็ดขาด
7.เวลาเดินทางอย่ารับประทานมากจนเกินไป อย่ารับประทานอาหารให้อิ่มจนเต็มท้อง เพราะถ้ามีของเต็มกระเพาะ ก็มีแนวโน้มที่จะอาเจียนออกมาได้ง่ายกว่าปกติ แต่ก็ไม่ควรอดอาหารเช่นกัน
8.ไม่ควรรับประทานของที่มัน หรือเลี่ยน เพราะว่าจะย่อยยาก ค้างอยู่ในกระเพาะนาน จะทำให้อาเจียนได้ง่าย
9.ไม่รับประทานอาหารที่มีรสจัดหรือมีกลิ่นแรง ซึ่งจะกระตุ้นให้ตัวเองหรือคนข้าง ๆ คลื่นไส้อาเจียน
10.งดดื่มแอลกอฮอล์ เพราะลำพังแอลกอฮอล์ไม่ต้องขึ้นรถก็เมาอยู่แล้ว
11.ใช้ปลาสเตอร์ยาหรือปลาสเตอร์ปิดแผล 2 อัน ปิดเป็นรูปกากบาทที่บริเวณสะดือจะช่วยให้เมาลดลง
12.ถ้านั่งเรือให้นั่งกลางเรือเพราะจะเป็นจุดที่มีการส่ายไปมาน้อยที่สุด
13.อย่าวิตกกังวล เพราะยิ่งวิตกกังวลก็จะยิ่งเครียด ยิ่งเครียดก็จะทำให้เมาง่ายยิ่งขึ้น
14.และสุดท้ายวิธีที่ดีที่สุดคือ รับประทานยาแก้เมารถหรือเมาเรือก่อนออกเดินทาง ประมาณ ครึ่งชั่วโมง จะช่วยได้มาก แต่ยาจะมีฤทธิ์ทำให้ง่วงนอน

แต่ถ้าหากเกิดอาการเมารถเมาเรือขึ้นมาก็มีวิธีแก้ดังนี้


1.ถ้าท้องไส้ปั่นป่วนมากสำหรับบางคน การได้ดื่มน้ำอัดลมในปริมาณพอเหมาะจะช่วยได้
2.เมื่อเริ่มวิงเวียน การสูดหายใจลึก ๆ รับลมเย็นๆ จากหน้าต่างรถ หรือใช้ผ้าเย็นเช็ดหน้าผากและหน้าช่วยลดอาการได้
3.ถ้าเริ่มมีอาการวิงเวียน ใช้ยาดม ยาหอม และกลิ่นพืชสมุนไพรตามที่แต่ละคนชอบ จะช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนได้รวมไปถึง การดมกลิ่นเปลือกส้มเขียวหวาน(บีบให้มันพ่นกลิ่นออกมา)และกลิ่นเปลือกพริก ขี้หนู
4.หากไม่ไหวจริงๆ ให้นอนลงแล้วหลับตาเพื่อปิดการส่งสัญญาณภาพเข้าสมอง เพื่อเป็นการลดความสับสนที่สมองได้รับ ให้สมองรับสัมผัสการทรงตัว ที่อยู่ที่หูชั้นในเพียงอย่างเดียว อาการจะดีขึ้น แต่ถ้าหลับไปจริงๆได้ยิ่งดี เพราะขณะนอนหลับสมองส่วนคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย จะปิดรับสัญญาณใดๆ อาการเมารถเมาเรือจะหายไปเอง

เครดิต : http://www.bangburdtour.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539093904&Ntype=5
บางเบิดรีสอร์ท ดำน้ำเกาะทะลุ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น